HONDA GOLDWING F6B
- วันที่: 13/02/2019 16:20
- จำนวนคนเข้าชม: 2555
HONDA GOLDWING F6B กับระบบความบันเทิงที่สร้างสรรค์ได้อย่างลงตัว ทั้งในด้านการออกแบบ การติดตั้ง รวมไปถึงการ TUNING ที่เหมาะสมกับการใช้งานจริง เพราะ F6B นั้น เป็นรถจักรยานยนต์สาย TOURING ที่เน้นการวิ่งทางไกล ในความเร็วค่อนข้างสูง เพราะฉะนั้นหากระบบความบันเทิงมันไปไม่ถึง มันก็คงได้ยินแค่เสียงลมพัดผ่านเพียงเท่านั้น
HONDA GOLDWING ถือว่าเป็นจักรยานยนต์รุ่นใหญ่สุดของค่าย HONDA ที่ออกแบบมาเน้นการใช้งานสไตล์ท่องเที่ยวระยะไกล ซึ่งค่าตัวของเจ้า GOLDWING นั้นอยู่ในระดับเลข 7 หลักเลยทีเดียว ด้วยค่าตัวระดับนี้ แน่นอนว่าทาง HONDA ต้องอัด ต้องยัด เทคโนโลยีและนวัตกรรม ลงไปเพียบ ไม่ว่าจะเป็นด้าน สมรรถนะ ความปลอดภัย ความสะดวกสบาย รวมไปถึงความบันเทิงที่เรียกได้ว่า OPTION ไม่น้อยไปกว่ารถยนต์เลยทีเดียว แถมจะว่าไป ดูจะเหนือกว่าเสียด้วยซ้ำไป เพราะอุปกรณ์ต่างๆ ต้องออกแบบมาสำหรับการทนต่อสภาพอากาศที่เลวร้ายมากกว่า ไม่ว่าจะน้ำ ฝุ่น แดด เพราะรถจักรยานยนต์ ต้องเจอสิ่งเหล่านี้ตรงๆ อย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้
สำหรับ GOLD WING คันนี้เป็น VERSION WINDSHIELD ต่ำ ซึ่งจะมีรหัสเฉพาะตัวคือ F6B ที่จะออกแนว SPORT กว่าตัว FULL TOURING โดยข้อแตกต่างที่ชัดเจนคือ ตัว F6B จะตัดในส่วนของพนักพิงหลังผู้โดยสาร และกล่องท้ายที่มาพร้อมชุดลำโพงออกไป เพื่อให้สามารถใช้งานได้อย่างคล่องตัวในเมืองมากยิ่งขึ้น สำหรับ F6B คันนี้ นอกจากระบบความบันเทิงแล้ว ยังได้มีการตกแต่งตัวรถให้ออกมาดูโดดเด่นแปลกตาด้วยการทำสีใหม่ ซึ่งเป็นการพ่นเกล็ดทองคำเปลวแท้ๆ ลงไปจนเต็มพื้นที่ จากนั้นเสริมลวดลายไฟด้วยการ AIR BRUSH อย่างสวยงาม และเพื่อความสุดงานนี้ได้เปลี่ยนล้อหน้ามาเป็นล้อขนาด 21 นิ้ว พร้อมใส่ของเล่นของแต่งลงไปพอสมควร เอาที่พอดีๆ เพราะรถคันนี้ไม่ได้เน้นโชว์เพียงอย่างเดียว เจ้าของรถยังคงนำรถออกมา
ใช้ในชีวิตประจำวันอยู่บ่อยๆ
เอาล่ะคราวนี้ก็มาถึงส่วนของงานด้านความบันเทิงกันบ้าง สำหรับ F6B คันนี้ แม้ว่าทาง HONDA จะติดตั้งระบบเสียงมาให้ตั้งแต่ออกจากโรงงาน แต่ระบบเสียง OEM ก็บอกตรงๆ ว่ามันยังเล่นได้ไม่สุด มีหลายส่วนที่ดูแล้วต้องแก้ไข ไม่ว่าจะเป็นเนื้อเสียงในย่านความถี่ต่ำ หรือ เนื้อเบส ที่ค่อนข้างบาง เพราะระบบเดิมๆ นั้น ไม่มีลำโพง SUBWOOFER เข้ามาช่วยเสริม แถมระดับความดังของเสียงก็แทบจะไม่ทะลุหมวกกันน็อคเข้ามาถึงหูผู้ขับขี่สักเท่าไร ดังนั้น CONCEPT ในการ UP GRADE ระบบเสียงครั้งนี้คือ ระบบเสียงที่สามารถใช้งานได้จริง มาครบ ทุกมิติ โดยยังคงใช้งานได้อย่างสะดวกสบาย ซึ่งดูแล้วหากเปลี่ยนเครื่องเล่นการใช้งานจะมีความซ้ำซ้อน เพราะชุดคอนโทรลต่างๆ ทั้งบนตัวรถ ประกับแฮนด์ อาจจะไม่รองรับกับตัวเครื่องเล่นที่เปลี่ยนเข้าไปใหม่ และที่สำคัญคือ ตัวเครื่องเล่นที่กันน้ำได้ในประเทศไทย มีตัวเลือกน้อยเหลือเกิน ดังนั้นการเลือกใช้เครื่องเล่น OEM ดูจะเป็นทางออกที่ลงตัวที่สุด
ในส่วนของภาคขยาย ก็ส่งเข้ามาเพิ่มระดับสัญญาณพร้อมปรับแต่งย่านความถี่ให้ลงตัวด้วย PRE AMP ของ PRISM รุ่น T-6 รุ่นยอดนิยมของคนเครื่องเสียง เพราะไม่ว่าจะเป็น SPL / SQL ไปจนถึง SQ PRISM T-6 ก็ได้รับความไว้วางใจจากนักเล่นเครื่องเสียงรถยนต์มาอย่างต่อเนื่อง จาก PRE AMP ก็ส่งต่อสัญญาณเสียงมายัง POWER AMP 2 เครื่อง จากค่ายเดียวกัน วางระบบการเล่นแบบ BI-AMP โดย POWER AMP ตัวแรกเลือกใช้เป็น POWER AMP แบบ 4 CH รุ่น SE 4.90 ที่ติดตั้งอยู่ในกระเป๋าข้างขวาคู่กับ PRE AMP และ POWER AMP CLASS D รุ่น SQ1 อีก 1 เครื่อง ตัวงานมีการวาง LAYER ได้อย่างน่าสนใจ เพราะพื้นที่ค่อนข้างมีจำกัด แต่ทาง ROCKET SOUND ก็จัดสรรค์ได้อย่างลงตัว แถมยังมีลูกเล่นและสีสันด้วยการนำแผ่นอะครีลิคมาสร้างเป็น RACK สำหรับยึด POWER AMP ซึ่งแน่นอนว่าเมื่อมี RACK อะครีลิคแล้ว ย่อมมีไฟ LED เป็นตัวเสริมให้ชิ้นงานมีความสมบูรณ์แบบ
มาถึงส่วนของลำโพงกลาง-แหลม ต้องขอบอกว่าเจ้าของรถใจถึงมาก เพราะได้เลือกเอาลำโพงระดับ HI-END ที่ค่าตัวเอาเรื่องอย่าง RAINBOW มารับหน้าที่ปลดปล่อยรายละเอียดเสียง งานนี้มาแบบแพ็คคู่ ติดตั้งทั้งทางด้านหน้า และด้านท้ายของรถ ไม่ต่างจากรถยนต์เลยทีเดียว ด้านหน้าได้เลือกใช้เป็นลำโพงแบบ 2 ทางแยกชิ้น รุ่น SL-C5.2 ที่ดอก WOOFER มาในขนาด 5.25 นิ้ว นำไปติดตั้งแทนที่ลำโพงเดิมบริเวณชุดคอนโซลด้านหน้าได้อย่างลงตัว ในการยึดติดดอกลำโพงนั้นมีการดัดแปลง แก้ไข เพื่อให้ลำโพงสามารถติดตั้งได้อย่างมั่นคง แข็งแรง ทำให้ลำโพงสามารถทำงานได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ
ส่วนลำโพงชุดหลัง เลือกเล่นเป็นลำโพง 2 ทางแกนร่วม รุ่น KX-100 นำไปติดตั้งไว้ใต้กันชนท้าย โดยได้สร้างตู้ขนาดเล็กขึ้นมารองรับ ซึ่งลำโพงชุดนี้ แม้จะไม่ได้ใช้เป็นลำโพงสำหรับการฟังแบบจริงจัง
แต่มันก็ช่วยเสริมบรรยากาศ และเพิ่มมิติของเสียงได้เป็นอย่างดี
สำหรับงานติดตั้งเครื่องเสียงในรถจักรยานยนต์นั้น หลายๆ คนอาจมองว่า มันไม่มีประโยชน์อะไรมากนัก เพราะถึงเวลาขับจริงๆ เสียงก็สู้ลมไม่ได้อยู่แล้ว โดยเฉพาะรถที่ขับเร็วๆ แต่สำหรับประเภทนี้มันจะต่างออกไป เพราะทางทีมวิศวกรจะคำนวนเรื่องสภาพการใช้งานเอาไว้ ดังนั้น แม้ว่าขับอยู่ก็ยังสัมผัสกับเสียงได้ในระดับหนึ่ง แต่หากเป็นรถที่มีการ UP GRADE ระบบเสียงเช่นเดียวกับเจ้า F6B สีทองคันนี้ ก็จะได้ความคมชัดมากขึ้น สัมผัสกับเสียงได้ดีขึ้น ยิ่งถ้าจอดฟังด้วยแล้ว ระบบเสียงของ F6B คันนี้ ก็ถือว่าโดดเด่น ไม่น้อยหน้ารถยนต์เลยทีเดียว
ติดตามข้อมูลข่าวสาร เครื่องเสียงรถยนต์ได้ที่
Line@ : https://goo.gl/YBKepc
Youtube : https://bit.ly/2JIZiH2
Call : 02-8259999,062-8549999
#Rocketsound #HappinessJourney #Mosconi #SinfoniQuartorigo#DigitalResearch #Prism #เครื่องเสียงรถยนต์ #Porsche718#CarAudio
